
กลับโฉม ‘เวทีลุมพินี’ กองทัพบกฝ่าล้างพนัน พิสูจน์แวดวงมวย
ที่มาสกู๊ปหน้า 1 ความเห็นชนรายวันเผยแพร่วันที่ 17 มี.ค. 2564
แปลงเป็นใจความสำคัญร้อนเขย่าแวดวงมวยไทยในตอนตลอดเดือนที่ผ่านมา เมื่อทัพบกซึ่งเป็นเจ้าของสนามมวยมาตรฐานลุมพินีมีแผนในการกระทำการ “เวทีมาตรฐานลุมพินี” มี 2 ระลอกปัจจุบัน…
เรื่องดังที่กล่าวมาแล้วคนแวดวงมวยไทยพอใจอย่างยิ่งด้วยเหตุว่าเวทีลุมพินีเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของมวยไทยมายาวนาน อีกทั้งในด้านของการสืบทอดรักษามวยไทย รวมทั้งในทางของสถานที่การเล่นพนันมวยไม่ผิดกฎหมาย
ระลอกแรก “บิ๊กบี้” พล.อำเภอณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ประกาศแนวนโยบายแก้ไขล้างพนันในค่ายทหาร ทั้งยังสนามแข่งม้า เวทีมวย สั่งยกเลิก 2 สนามแข่งมวยไทย ค่ายอดิศร จังหวัดจังหวัดสระบุรี รวมทั้งค่ายสุรนารี จังหวัดจังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งปิดสนามแข่งม้าค่ายสุรนารี วัวราช ยกเลิกแข่งขันม้า รวมถึงสนามกอล์ฟของกองกองทัพบกทั้งหมดทั้งปวงให้เป็นธุรกิจเชิงการค้า เอกชนเข้ามาทำงาน และก็ส่งรายได้เข้ากรมธนารักษ์
เหตุผลสำคัญเป็นอยากได้กำจัดการเดิมพัน รวมทั้งกรุ๊ปมาเฟีย โดยคิดแผนจะปรับปรุงให้เป็นศูนย์ปรับปรุงกีฬาที่มีคุณประโยชน์แก่สามัญชน อย่างเช่น สวนสาธารณะใช้เป็นที่บริหารร่างกาย
“บิ๊กติ่ง” พล.ท.สงบสุขเหล่ากอ ธรรมปิยะ พิธีกรทัพบก ขยายความว่า กรอบของกลยุทธ์ปฏิวัติทัพบกในระยะ 3 ปี เพื่อปรับทางให้เป็นกองกองทัพที่นำสมัยตอบปัญหาภัยรุกรามรวมทั้งสนองตอบแผนการรัฐบาล ตั้งแต่ห้วงวันที่ 1 ต.ค. 2563 ถึงวันที่ 30 กันายน 2566 โดยในปี 2564 มุ่งจัดระบบระบุแผนงานให้ชัดแจ้ง แล้วต่อจากนั้นปี 2565 เน้นตามแผนงาน และก็วิธีการเพื่อปรับปรุงกองทัพในทุกมิติ แล้วก็ปี 2566 นำผลของการปฏิบัติสู่การปรับปรุง “บิ๊กบี้” ไม่อยากที่จะให้ทหารเข้าไปเกี่ยวเนื่องกับการเดิมพันรวมทั้งกรุ๊ปมาเฟียอีกต่อไป
เมื่อมีประกาศออกมา คนแวดวงมวยไทยต่างเสียขวัญเป็นอย่างมากเนื่องจากสนามมวยลุมพินี เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่คนแวดวงมวยใช้หาเลี้ยงชีพเลี้ยงปาก เลี้ยงท้องอีกทั้งของตนเอง รวมทั้งครอบครัว มาอย่างช้านาน
แรงกระเพื่อมดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นคนแวดวงมวยไทยต่างออกมาแย้ง หวังกลับใจไม่ให้ “ยุบ” เวทีลุมพินี
ไม่นานนัก ทัพบกออกมาอธิบายว่า ทัพบกจะไม่ “ยุบ” สนามแข่งมวยลุมพินี แต่ว่าจะมีแผนในการปรับปรุงยกฐานะเวทีลุมพินีเพื่อบริการแก่ประชากรอย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งจะเดินหน้ากำจัดประเด็นการพนันอย่างสุดกำลัง
ก็เลยเป็นต้นเหตุของการประกาศระลอกที่ 2 ของกองกองทัพบก ป้ายประกาศรีแบรนด์ “สนามแข่งมวยลุมพินี” ไม่ขายตั๋วให้คนประเทศไทยเข้าชม แม้กระนั้นจะขายให้เฉพาะคนต่างประเทศ
ผู้บัญชาการทหารบกมีแนวความคิดว่า ให้แปลงชื่อสนามแข่งมวยลุมพินีเป็น “มวยไทยลุมพินี” เพื่อเป็นการรักษาไว้ ช่วงเวลาเดียวกันต้องตามเป้าประสงค์การสนับสนุนกีฬาชกมวยไทยรวมทั้งรักษาวัฒนธรรมไว้ จะไม่ให้มีการขายตั๋ว ไม่ให้มีกิจกรรมเชิงอบายมุข แล้วก็ใช้กระบวนการถ่ายทอดสด ตามมาตรการของ ศบค. โดยในอนาคตข้างหลังจบเหตุการณ์วัววิด-19 จะเปิดขายบัตรให้เฉพาะนักเดินทางคนประเทศอื่นเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมทั้งให้ทำความเข้าใจศิลป์มวยไทย
แม้ทัพบกเดินหน้าจนถึงเป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมได้จริง สังคมมวยลุมพินีจะไม่มีการเดิมพัน
ดังนี้ การเดิมพันมวย วงเงินพนันเฉลี่ยต่อนัดหมายจะมากมายน้อยจะขึ้นกับรายการมวยว่าจัดใกล้เคียงมากน้อยแค่ไหน โปรโมเตอร์ผู้จัดน่าไว้วางใจแค่ไหน อย่างเช่น ศึกมวยไทยนัดหมายใหญ่ จะเล่นพนันแบบได้เสียคู่ละเป็นล้านบาท และก็คู่มวยที่ต่อยระดับไหน ฯลฯ
ส่วนสนามแข่งมวยชนบทเล่นพนันเฉลี่ยต่อรายการ 300,000-1,200,000 บาท คนเข้าสนามแข่งมวยจะมาเล่นการเดิมพันในรูปร่าง 90:10 เป็นเล่นพนัน 90% ไม่เล่น 10% รวมทั้งเล่นพนันมวย 5 ชู เซียนมวยแล้วก็นักพนันชอบเป็นกรุ๊ปเดียวกันทั้งยังในศูนย์กลาง รวมทั้งส่วนภูมิภาค มีความประพฤติเดินสายเพื่อเล่น การเดิมพันในสนามแข่งมวย และก็สนามแข่งม้า
ศูนย์เล่าเรียนปัญหาเกี่ยวกับการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ ประเมินไว้ว่า วงเงินการเดิมพันมวยไทยมีมูลค่าราวๆ 14,420 ล้านบาท เมื่อปี 2558 งานวิจิยยังกล่าวว่า การเดิมพันมวยไทยถูกต้องตามกฎหมาย จากการคาดการณ์ของผู้ศึกษาวิจัย ด้วยเหตุผลและก็ข้อจำกัดข้างต้น วงเงินการเดิมพันมวยไทยในส่วนนี้ จะมีมูลค่าโดยประมาณ 13,152-14,448 ล้านบาทต่อปี
สำหรับหัวข้อขายตั๋วให้เฉพาะคนต่างประเทศ ปรากฏว่าบรรดาเซียนมวยต่างไม่เห็นพ้อง
นายสมศักดา กองทัพ อายุ 73 ปี ผู้คร่ำคร่าหวดแวดวงมวยไทยพูดว่า สารภาพว่ารู้สึกตกใจ เนื่องจากชีวิตค่อนชีวิตอยู่กับมวย เป็นที่รู้จักก็จากมวย
“ผมคิดว่าผู้ที่เข้ามาบริหารจัดแจงบางทีก็อาจจะยังไม่รู้เรื่อง ต้องการฝากขอร้องทัพบกต้องการให้มีมุมมองกับแวดวงมวยใหม่ อยากที่จะให้ดูบริเวณด้าน” นายสมศักดากล่าว
“มิตร นคร” นายสุการเซ่นสรวง ซื่อสัตตบขี้เหนียวช โปรโมเตอร์ศึกวันมิตรชัย เผยออกมาว่า ไม่เห็นพ้อง เป็นสิ่งที่ผิดจำต้อง การที่จะไปเน้นย้ำให้ฝรั่งเข้ามาดูมวยในสนามได้ แล้วไม่ให้ชาวไทยเข้าไปดู ในขณะที่ชาวมวยเข้ามาในสนามมีอีกทั้งเข้ามาดูเพื่อความรื่นเริงใจ เข้ามาเสวนาธุรกิจ มิได้เข้ามาเพื่อเล่นการเดิมพันสิ่งเดียว สนามมวยก็เป็นเวทีที่สร้างอาชีพให้กับนักมวย บางบุคคลชกมวยเพื่อเลี้ยงชีวิต บางบุคคลชกมวยเพื่อส่งตัวเองเรียนหนังสือ การไปห้ามชาวไทยเข้ามองที่สนาม ในอนาคตจะมีผลให้นักมวยทุกข์ยากลำบากเพราะเหตุว่าไม่มีรายได้ โปรโมเตอร์จัดมวยก็ขาดรายได้ จะหาเงินจากฝรั่งสิ่งเดียวก็อาจไม่เพียงพอ แล้วจะหารายได้จากไหนมาว่าจ้างนักมวย ควรจะให้มีคู่รักมวยคนประเทศไทยเข้าชมถัดไป เพื่อสงวนมวยไทยไว้
นายหัวมิตรกล่าวต่อว่าต่อขาน หลักการนี้ไม่ทำให้รุ่นลูก รุ่นหลานพอใจเรื่องมวย พอๆกับตัดความฝันนักมวยแบบใหม่ เนื่องจากไม่มีเวทีต่อยจะมีผลให้อาชีพนักมวยเบาๆหายไป ช่วงนี้คนภายในแวดวงมวยส่วนมากก็ไม่เห็นพ้องกับประเด็นนี้
หลักการไม่ขายตั๋วให้ชาวไทย ขายตั๋วให้เฉพาะฝรั่งกำลังจะมีการวิพากษ์วิจารณ์
จำเป็นต้องมองก้าวถัดไปว่านโยบายดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วจะบรรลุเป้าหมายหรือเปล่า
ประเด็นนี้คนภายในแวดวงมวยไทยกำลังพึงพอใจ